Category Archives: ห้องน้ำ

เลือกก๊อกน้ำอย่างไรให้เหมาะกับอ่างล้างหน้า

นอกจากเลือกดีไซน์ที่สวยหรูแล้ว ในการเลือกก๊อกน้ำ ต้องคำนึงถึงอ่างล้างหน้าด้วยทุกครั้ง เพื่อให้การใช้งานที่สะดวก และป้องกันความผิดพลาดและการจัดองค์ประกอบของก๊อกน้ำและอ่างล้างหน้า ทำให้น้ำจากก๊อกกระจายออกนอกอ่าง แล้วต้องมาเสียเวลาเช็ดถูทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน WeHome จึงมีข้อมูลเกี่ยวกับก๊อกน้ำมาฝาก เพื่อให้คุณได้ทำความเข้าใจก่อนเลือกซื้อมาใช้งาน

ตำแหน่งการติดตั้งก๊อกน้ำ

สามารถติดตั้งได้ 2 จุด คือ ติดตั้งที่ผนัง และติดตั้งบนเคาน์เตอร์หรืออ่างล้างหน้า

  1. การติดตั้งที่ผนัง ก๊อกน้ำแบบฝังผนังเหมาะกับอ่างล้างหน้าทุกประเภท ข้อดีคือ ทำความสะอาดอ่างล้างหน้าได้ง่าย แต่หากก๊อกน้ำหรือระบบท่อน้ำเสีย อาจยุ่งยากในการรื้อกระเบื้องหรือทุบผนัง
  2. การติดตั้งบนเคาน์เตอร์หรืออ่างล้างหน้า เป็นก๊อกน้ำแบบที่เราเห็นกันทั่วไป สามารถติดตั้งได้ง่าย และสะดวกในการบำรุงรักษา ส่วนมากจะเห็นก๊อกน้ำแบบนี้ใช้คู่กับอ่างล้างหน้าแบบแขวน อ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์ และอ่างล้างหน้าแบบฝั่งบนเคาน์เตอร์ที่มีช่องสำหรับติดตั้งก๊อกน้ำ

ขนาดของก๊อกน้ำ

เมื่อเรารู้ประเภทของก๊อกน้ำที่เราต้องการ และรู้ตำแหน่งที่จะติดตั้งก๊อกน้ำแล้ว ต่อไปเป็นการเลือกขนาดก๊อกน้ำที่เหมาะสมกับขนาดของอ่างล้างหน้า ควรตรวจวัดความสูง-ต่ำ ความยาวของตัวก๊อก และองศาการไหลของน้ำ เพื่อให้ก๊อกอยู่ในระดับที่ใช้งานได้สะดวก ไม่สูงจากอ่างล้างหน้าจนเกินไป ทำให้น้ำกระเด็นออกนอกอ่าง หรือไม่เตี้ยติดอ่างล้างหน้าจนเกินไป ทำให้อดมือเข้าไปล้างไม่สะดวก ซึ่งวิธีการเลือกขนาดของก๊อกน้ำ มีดังนี้

1. ความสูงของก๊อกน้ำ เป็นความสูงที่วัดจากฐานก๊อกน้ำถึงปากก๊อกน้ำ หากเลือกระดับที่เหมาะสม จะทำให้สอดมือเพื่อรองน้ำได้สะดวก ซึ่งความสูงของก๊อกน้ำควรสอดรับกับความลึกของอ่างล้างหน้า เช่น หากอ่างล้างหน้าก้นตื้น ไม่ควรใช้ก๊อกน้ำเตี้ย และที่สำคัญตัวก๊อกต้องไม่ติดชิดขอบอ่างมากเกินไป การใช้งานจะสะดวกมากขึ้น
2. ความยาวของก๊อกน้ำ เป็นความยาวของปากก๊อกน้ำ โดยวัดจากก้านเปิด-ปิดน้ำถึงปากก๊อกน้ำ ยิ่งความยาวปากก๊อกมาก ก็จะยิ่งทำให้สอดมือรองน้ำได้สะดวกขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ควรเลือกขนาดที่ความยาวพอดี และเหมาะสมกับอ่างล้างหน้าที่คุณมี หากอ่างล้างหน้าที่มีเป็นอ่างขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลางไม่มาก ก็ไม่ควรเลือกก๊อกน้ำที่ยาวจนเกินไป
3. องศาการไหลของน้ำ ช่วยให้สะดวกในการใช้งาน ซึ่งก๊อกแต่ละดีไซน์หรือก๊อกแต่ละยี่ห้อก็มีองศาการไหลของน้ำที่แตกต่างกันออกไป ถ้าองศาการไหลของน้ำเอียงออกจากตัวก๊อก จะใช้งานได้สะดวกกว่าองศาน้ำที่ไหลดิ่งลงตรง ๆ วิธีการเลือกองศาการไหลของน้ำ สามารถดูได้จากรูปทรงตรงปลายก๊อกน้ำ และสังเกตดูที่บริเวณรูน้ำไหลที่ปลายก๊อกได้

คุณสมบัติที่มีคุณภาพสำหรับก๊อกน้ำ
1. ควรทำมาจากทองเหลือง เพราะสามารถทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี
2. เป็นก๊อกน้ำที่เคลือบโครเมี่ยม ลักษณะจะเป็นมันวาว เพราะสามารถทนทานต่อสารเคมี และรอยขีดข่วนได้ดี
3. ควรมีซีลยาง และแหวานยางในตัวก๊อกน้ำ เพราะจะทนต่อการใช้งาน น้ำไม่รั่วซึม
4. ควรเป็นก๊อกน้ำที่มีระบบการเปิด-ปิดเพียงรอบเดียว เพื่อช่วยให้ประหยัดน้ำได้

สั่งซื้อกดเลย!!!

ควรเลือกใช้สต๊อปวาล์วแบบไหนดี ?

ควรเลือกใช้สต็อกวาล์วแบบไหนดี-01
ควรเลือกใช้สต็อกวาล์วแบบไหนดี-01

สต๊อปวาล์ว มีหน้าที่เปิด-ปิดน้ำ ไม่ต่างจากก๊อกทั่วๆไป แต่สต๊อปวาล์วช่วยให้เราทำงานได้สะดวกขึ้น เช่น ถ้าจะซ่อมก๊อกน้ำ ก็ปิดสต๊อปวาล์วที่ต่อมายังตัวก๊อกน้ำได้ แล้วก็สามารถซ่อมก๊อกน้ำได้ไม่ต้องกลัวห้องน้ำเลอะ  แล้วสต๊อปวาล์วก็ยังมีประโยชน์ในตอนที่ก๊อกน้ำของคุณปิดไม่สนิท ก็สามารถปิดสต๊อปวาล์วได้เช่นกัน

แล้วสต๊อปวาล์วยังมี 2 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น แบบบอลวาล์ว และ เซรามิควาล์ว มีหน้าที่เหมือนกัน แต่ใช้งานแตกต่างกัน วันนี้ วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ จะพาทุกคน มาดูกันว่า สต๊อปวาล์วเหล่า ทำงานยังไงแล้วมาสอนวิธการเปลี่ยนสต๊อปวาล์วใหม่อีกด้วย

เมนูสต็อปวาล์ว คืออะไร
เมนูบอลวาล์ว และ เซรามิควาล์ว ต่างกันอย่างไร
เมนูวิธีเป็นสต็อปวาล์วใหม่ ทำอย่างไร
เมนูสินค้า

สต๊อปวาล์ว (Stop Valve) คืออะไร?

โดยปกติแล้วการติดตั้งระบบปะปากับสุขภัณฑ์ เพียงต่อท่อน้ำดีเข้ากับตัวเครื่องสุขภัณฑ์ก็สามารถใช้งานได้ทันที แต่เมื่อถ้าเกิดปัญหาที่มีซ่อมแซม เราต้องมาปิดมิเตอร์น้ำด้านนอก เพื่อหยุดการใช้น้ำทั้งหมด ก่อนทำการซ่อม ซึ่งจะทำให้จุดที่ต้องใช้น้ำภายในบ้านทั้งหมด ไม่สามารถใช้น้ำได้ ทางออกที่ดีคือ การใช้ “สต๊อปวาล์ว” ในบริเวณส่วนที่จ่ายน้ำเข้ากับสุขภัณฑ์ต่างๆ จึงทำให้เมื่อเวลาเกิดการซ่อมแซมก็สามารถปิดสต๊อปวาล์ว ได้เฉพาะจุดที่ต้องการซ่อมแซม สต๊อปวาล์วเป็นตัวควบคุมสำหรับการเปิด-ปิด การจ่ายน้ำไปยังอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ก๊อกอ่างล้างหน้า ฝักบัวอาบน้ำ ชุดฉีดชำระ เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว สต๊อปวาล์วนั้น ยังช่วยในการควบคุมการไหลของน้ำ และแรงดันของน้ำ จึงทำให้สามารถควบคุมการไหลของน้ำได้ตามความต้องการ

บอลวาล์ว และ เซรามิควาล์ว ต่างกันอย่างไร?

1. บอลวาล์ว (Ball Valve)

เป็นวาล์วที่ได้รับการปรับปรุงมาจากปลั๊กวาล์ว (Plug Valve) โดยมีการใช้ลูกบอลโลหะแทน เป็นวาล์วที่มีขนาดเล็ก กระทัดรัด เบา และใช้พื้นที่น้อยกว่าวาล์วประตูน้ำ (Gate Valve)มาก บอลวาล์ว (Ball Valve) มีหลายประเภทด้วยกัน เช่น บอลวาล์ว 3 แบบ โดยถ้าแบ่งประเภทตามการเจาะผ่านลูกบอล จะสามารถแยกได้เป็น

บอลวาล์วแบบฟูลพอร์ต

(Fullport Ball Valve)

บอลวาล์วแบบรีดิวซ์พอร์ต

(Reduced Port Ball Valve)

บอลวาล์วแบบเวนจูรี่

(Venturi Valve)

นอกจากนี้เรายังสามารถแบ่งบอลล์วาล์วได้จากลักษณะของลูกบอลภายในบอลวาล์ว (Ball Valve)

1.1 บอลวาล์วแบบลูกลอย (Floating Ball Valve)

บอลวาล์วลักษณะนี้ลูกบอลจะถูกความดันให้ติดขอบด้านทางออก เมื่อมีความดันมากขึ้น ก็ยิ่งดันให้ปิดสนิทมากขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าความดันด้านทางเข้า และทางออกต่างกันน้อยเกินไป จะส่งผลทำให้บอลวาล์ว (Ball Valve) ประเภทนี้ปิดไม่สนิท ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการใช้บ่าวาล์วที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นและให้ลูกบอลคับขึ้นกว่าเดิม

1.2 บอลวาล์วแบบ ทรันเนี่ยน เมาส์ เต็ด (Trunnion Mounted Ball Valve)

บอลวาล์วลักษณะนี้ ลูกบอลจะถูกยึดทั้งด้านบนและล่าง บ่าวาล์วทั้งทางด้านเข้าและด้านออกจะเป็นคนละชิ้นแยกจากกัน และอาจมีการเสริมสปริงในบางครั้งที่มีการใช้กับความดันต่ำ

การเคลื่อนไหวของบอลวาล์ว(Ball Valve)นั้น ถ้าเป็นวาล์วที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากจะอาศัยก้านหมุนของวาล์ว ในขณะที่ถ้าเป็นวาล์วที่มีขนาดใหญ่ต้องมีการใช้เกียร์ทดช่วยในการเคลื่อนไหว ระบบกันซึมของบอลวาล์ว(Ball Valve) สามารถใช้ได้ตั้งแต่โอริง (O-ring)ไปจนถึงการใช้แพคกิ้ง (Packing) แบบธรรมดา บอลวาล์ว (Ball Valve)เป็นวาล์วที่ไม่ต้องมีการหล่อลื่น และต้องระวังในการใช้งานกับอุณหภูมิสูง เนื่องจากอาจจะทำให้ระบบกันซึมเสียได้.

ปัจจุบัน บอลวาล์วเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยมีการใช้อย่างแพร่หลายทั้งในโรงงานอุตสาหกรรม (วาล์วอุตสาหกรรม) อาคารบ้านเรือน รวมไปถึงบอลวาล์วในงานประปา บอลวาล์วในงานราชการ เป็นต้น

2. เซรามิควาล์ว (Ceramic Valve)

เป็นวาล์วที่ทำจาก เซรามิ ใช้ทำหน้าที่ เปิด – ปิดน้ำ ซึ่งควรติดตั้งไว้ก่อนที่จะต่อท่อน้ำประปา เข้ากับสุขภัณฑ์ต่างๆ เช่น ชักโครก สายฉีดชำระ ก๊อกอ่างล้างหน้า ก๊อกอ่างล้างจาน ฯลฯ จะให้ดีควรติดตั้งที่จุดน้ำดีทุกจุดเลยก็ได้ เพื่อสะดวกเวลาซ่อมบำรุง หรือเวลาเปลี่ยนตัวใหม่

การใช้เซรามิวาล์ว มีข้อดีคือ ติดตั้งไว้เป็นระยะเวลานานก็ ไม่เปลืองแรงในการเปิดน้ำ หรือ ปิดน้ำ แล้วถ้าบอกถึงความต่างกันของบอลวาล์ และเซรามิควาล์ว  ก็ ต้องย้อนถึงปัญหา ของการใช้งาน ระยะยาว ปัญหาที่บางบ้านพอเจอคือ บอลวาล์ ถ้าติดตั้งเป็นเวลานาน จะทำให้ แข็งจนเปิดด้วยมือไม่ได้ เลย แต่บางบ้านอาจจะใช้บ่อย จนเปิดปิดง่าย แต่ ถ้าเราเปลี่ยนมาเป็น เซรามิควาล์ว  ก็จะสะดวกกับการเปิด ปิดมากขึ้น แม้จะติดตั้งเป็นเวลายาวนาน ไม่ต้องง้อคีมงัดอีกเลย

วิธีเปลี่ยนสต๊อปวาล์วใหม่ ทำอย่างไร?

วิธีง่าย ๆ ในการเลือกซื้อเกลียวสต๊อปวาล์วให้ถูกต้องใช้ได้กับอุปกรณ์และข้อต่อที่บ้าน

1. สำรวจจุดที่ต้องติดตั้งสต๊อปวาล์ว ติดตั้งกับอุปกรณ์อะไรบ้าง กี่ชิ้น

2. ดูจุดจ่ายน้ำ ข้อต่อท่อประปาว่าใช้เกลียวแบบไหน ข้อต่อท่อประปามีเกลียว 2 แบบ คือ แบบเกลียวนอก (เกลียวตัวผู้) และ แบบเกลียวใน (เกลียวตัวเมีย)

3. ต้องการต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงกี่ชิ้น

กรณีต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วง 1 ชิ้น เลือกสต๊อปวาล์วแบบทางน้ำออก 1 ทาง

กรณีต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วง 2 ชิ้น เลือกสต๊อปวาล์วแบบทางน้ำออก 2 ทาง

4. เลือกเกลียวสต๊อปวาล์วให้ตรงข้ามกับเกลียวข้อต่อท่อประปา และ เกลียวของสายน้ำดี

ตัวอย่าง ถ้าข้อต่อท่อประปา และ สายน้ำดีที่บ้านเป็นแบบเกลียวใน(เกลียวตัวเมีย)ทั้งคู่ เลือกใช้สต๊อปวาล์วแบบน้ำออก 1 ทาง เกลียวแบบเกลียวนอกทั้ง 2 ด้าน แนะนำเลือกใช้เป็น บอลวาล์ว (ผผ.) SANWA และ สต๊อปวาล์ว AMERICAN STANDARD 1 ทาง

สินค้าแนะนำ

สินค้าหมดแล้ว
สินค้าหมดแล้ว
- 15%
Original price was: ฿330.00.Current price is: ฿280.00.
สินค้าหมดแล้ว

ถ้าเราเลือกใช้ สต๊อปวาล์ว ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน ก็จะเป็นประโยชน์กับการใช้งานของคุณ วันนี้ วีโฮม ได้นำบทความจึงอยากให้คุณใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่ อาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับบ้านของคุณ วีโฮม หวังว่าบทความ ควรเลือกใช้สต๊อปวาล์วแบบไหนดี ? นี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณนะคะ เพราะเราคือ “วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ” พร้อมให้คำแนะนำ และ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ facebook fanpage : WeHome วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ แอดมินยินดีให้คำปรึกษานะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ : https://www.baan9chang.com/stop-valve-ceramic-valve-or-ball-valve/

https://www.eurooriental.co.th/ballvalve/

วิธีการสั่งซื้อทางช่องอื่น

📲1. ช้อปผ่าน LINE : @wehomeonline

📥2. ช้อบผ่าน Inbox Facebook Page : m.me/WeHomeOnline

🌍3. ช้อปผ่านเว็บไซต์ https://www.wehome.co.th ตลอด 24 ชม.

🛒4. ช้อปผ่าน LAZADA : https://www.lazada.co.th/shop/wehome-online

🛒5. ช้อปผ่าน Shopee : https://www.shopee.co.th/wattanaonline

🛒6. ช้อปผ่าน JD CENTRAL : https://www.jd.co.th/shop/pc/27676.html

🛒7. ช้อปผ่าน NOC NOC  :

📞8. โทรหาเราสั่งของได้ 074-338-000

สต๊อปวาล์ว มีหน้าที่เปิด-ปิดน้ำ ไม่ต่างจากก๊อกทั่วๆไป แต่สต๊อปวาล์วช่วยให้เราทำงานได้สะดวกขึ้น เช่น ถ้าจะซ่อมก๊อกน้ำ ก็ปิดสต๊อปวาล์วที่ต่อมายังตัวก๊อกน้ำได้ แล้วก็สามารถซ่อมก๊อกน้ำได้ไม่ต้องกลัวห้องน้ำเลอะ  แล้วสต๊อปวาล์วก็ยังมีประโยชน์ในตอนที่ก๊อกน้ำของคุณปิดไม่สนิท ก็สามารถปิดสต๊อปวาล์วได้เช่นกัน

แล้วสต๊อปวาล์วยังมี 2 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น แบบบอลวาล์ว และ เซรามิควาล์ว มีหน้าที่เหมือนกัน แต่ใช้งานแตกต่างกัน วันนี้ วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ จะพาทุกคน มาดูกันว่า สต๊อปวาล์วเหล่า ทำงานยังไงแล้วมาสอนวิธการเปลี่ยนสต๊อปวาล์วใหม่อีกด้วย

เมนูสต็อปวาล์ว คืออะไร
เมนูบอลวาล์ว และ เซรามิควาล์ว ต่างกันอย่างไร
เมนูวิธีเป็นสต็อปวาล์วใหม่ ทำอย่างไร
เมนูสินค้า

สต๊อปวาล์ว (Stop Valve) คืออะไร?

โดยปกติแล้วการติดตั้งระบบปะปากับสุขภัณฑ์ เพียงต่อท่อน้ำดีเข้ากับตัวเครื่องสุขภัณฑ์ก็สามารถใช้งานได้ทันที แต่เมื่อถ้าเกิดปัญหาที่มีซ่อมแซม เราต้องมาปิดมิเตอร์น้ำด้านนอก เพื่อหยุดการใช้น้ำทั้งหมด ก่อนทำการซ่อม ซึ่งจะทำให้จุดที่ต้องใช้น้ำภายในบ้านทั้งหมด ไม่สามารถใช้น้ำได้ ทางออกที่ดีคือ การใช้ “สต๊อปวาล์ว” ในบริเวณส่วนที่จ่ายน้ำเข้ากับสุขภัณฑ์ต่างๆ จึงทำให้เมื่อเวลาเกิดการซ่อมแซมก็สามารถปิดสต๊อปวาล์ว ได้เฉพาะจุดที่ต้องการซ่อมแซม สต๊อปวาล์วเป็นตัวควบคุมสำหรับการเปิด-ปิด การจ่ายน้ำไปยังอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ก๊อกอ่างล้างหน้า ฝักบัวอาบน้ำ ชุดฉีดชำระ เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว สต๊อปวาล์วนั้น ยังช่วยในการควบคุมการไหลของน้ำ และแรงดันของน้ำ จึงทำให้สามารถควบคุมการไหลของน้ำได้ตามความต้องการ

บอลวาล์ว และ เซรามิควาล์ว ต่างกันอย่างไร?

1. บอลวาล์ว (Ball Valve)

เป็นวาล์วที่ได้รับการปรับปรุงมาจากปลั๊กวาล์ว (Plug Valve) โดยมีการใช้ลูกบอลโลหะแทน เป็นวาล์วที่มีขนาดเล็ก กระทัดรัด เบา และใช้พื้นที่น้อยกว่าวาล์วประตูน้ำ (Gate Valve)มาก บอลวาล์ว (Ball Valve) มีหลายประเภทด้วยกัน เช่น บอลวาล์ว 3 แบบ โดยถ้าแบ่งประเภทตามการเจาะผ่านลูกบอล จะสามารถแยกได้เป็น

บอลวาล์วแบบฟูลพอร์ต

(Fullport Ball Valve)

บอลวาล์วแบบรีดิวซ์พอร์ต

(Reduced Port Ball Valve)

บอลวาล์วแบบเวนจูรี่

(Venturi Valve)

นอกจากนี้เรายังสามารถแบ่งบอลล์วาล์วได้จากลักษณะของลูกบอลภายในบอลวาล์ว (Ball Valve)

1.1 บอลวาล์วแบบลูกลอย (Floating Ball Valve)

บอลวาล์วลักษณะนี้ลูกบอลจะถูกความดันให้ติดขอบด้านทางออก เมื่อมีความดันมากขึ้น ก็ยิ่งดันให้ปิดสนิทมากขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าความดันด้านทางเข้า และทางออกต่างกันน้อยเกินไป จะส่งผลทำให้บอลวาล์ว (Ball Valve) ประเภทนี้ปิดไม่สนิท ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการใช้บ่าวาล์วที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นและให้ลูกบอลคับขึ้นกว่าเดิม

1.2 บอลวาล์วแบบ ทรันเนี่ยน เมาส์ เต็ด (Trunnion Mounted Ball Valve)

บอลวาล์วลักษณะนี้ ลูกบอลจะถูกยึดทั้งด้านบนและล่าง บ่าวาล์วทั้งทางด้านเข้าและด้านออกจะเป็นคนละชิ้นแยกจากกัน และอาจมีการเสริมสปริงในบางครั้งที่มีการใช้กับความดันต่ำ

การเคลื่อนไหวของบอลวาล์ว(Ball Valve)นั้น ถ้าเป็นวาล์วที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากจะอาศัยก้านหมุนของวาล์ว ในขณะที่ถ้าเป็นวาล์วที่มีขนาดใหญ่ต้องมีการใช้เกียร์ทดช่วยในการเคลื่อนไหว ระบบกันซึมของบอลวาล์ว(Ball Valve) สามารถใช้ได้ตั้งแต่โอริง (O-ring)ไปจนถึงการใช้แพคกิ้ง (Packing) แบบธรรมดา บอลวาล์ว (Ball Valve)เป็นวาล์วที่ไม่ต้องมีการหล่อลื่น และต้องระวังในการใช้งานกับอุณหภูมิสูง เนื่องจากอาจจะทำให้ระบบกันซึมเสียได้.

ปัจจุบัน บอลวาล์วเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยมีการใช้อย่างแพร่หลายทั้งในโรงงานอุตสาหกรรม (วาล์วอุตสาหกรรม) อาคารบ้านเรือน รวมไปถึงบอลวาล์วในงานประปา บอลวาล์วในงานราชการ เป็นต้น

2. เซรามิควาล์ว (Ceramic Valve)

เป็นวาล์วที่ทำจาก เซรามิ ใช้ทำหน้าที่ เปิด – ปิดน้ำ ซึ่งควรติดตั้งไว้ก่อนที่จะต่อท่อน้ำประปา เข้ากับสุขภัณฑ์ต่างๆ เช่น ชักโครก สายฉีดชำระ ก๊อกอ่างล้างหน้า ก๊อกอ่างล้างจาน ฯลฯ จะให้ดีควรติดตั้งที่จุดน้ำดีทุกจุดเลยก็ได้ เพื่อสะดวกเวลาซ่อมบำรุง หรือเวลาเปลี่ยนตัวใหม่

การใช้เซรามิวาล์ว มีข้อดีคือ ติดตั้งไว้เป็นระยะเวลานานก็ ไม่เปลืองแรงในการเปิดน้ำ หรือ ปิดน้ำ แล้วถ้าบอกถึงความต่างกันของบอลวาล์ และเซรามิควาล์ว  ก็ ต้องย้อนถึงปัญหา ของการใช้งาน ระยะยาว ปัญหาที่บางบ้านพอเจอคือ บอลวาล์ ถ้าติดตั้งเป็นเวลานาน จะทำให้ แข็งจนเปิดด้วยมือไม่ได้ เลย แต่บางบ้านอาจจะใช้บ่อย จนเปิดปิดง่าย แต่ ถ้าเราเปลี่ยนมาเป็น เซรามิควาล์ว  ก็จะสะดวกกับการเปิด ปิดมากขึ้น แม้จะติดตั้งเป็นเวลายาวนาน ไม่ต้องง้อคีมงัดอีกเลย

วิธีเปลี่ยนสต๊อปวาล์วใหม่ ทำอย่างไร?

วิธีง่าย ๆ ในการเลือกซื้อเกลียวสต๊อปวาล์วให้ถูกต้องใช้ได้กับอุปกรณ์และข้อต่อที่บ้าน

1. สำรวจจุดที่ต้องติดตั้งสต๊อปวาล์ว ติดตั้งกับอุปกรณ์อะไรบ้าง กี่ชิ้น

2. ดูจุดจ่ายน้ำ ข้อต่อท่อประปาว่าใช้เกลียวแบบไหน ข้อต่อท่อประปามีเกลียว 2 แบบ คือ แบบเกลียวนอก (เกลียวตัวผู้) และ แบบเกลียวใน (เกลียวตัวเมีย)

3. ต้องการต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงกี่ชิ้น

กรณีต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วง 1 ชิ้น เลือกสต๊อปวาล์วแบบทางน้ำออก 1 ทาง

กรณีต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วง 2 ชิ้น เลือกสต๊อปวาล์วแบบทางน้ำออก 2 ทาง

4. เลือกเกลียวสต๊อปวาล์วให้ตรงข้ามกับเกลียวข้อต่อท่อประปา และ เกลียวของสายน้ำดี

ตัวอย่าง ถ้าข้อต่อท่อประปา และ สายน้ำดีที่บ้านเป็นแบบเกลียวใน(เกลียวตัวเมีย)ทั้งคู่ เลือกใช้สต๊อปวาล์วแบบน้ำออก 1 ทาง เกลียวแบบเกลียวนอกทั้ง 2 ด้าน แนะนำเลือกใช้เป็น บอลวาล์ว (ผผ.) SANWA และ สต๊อปวาล์ว AMERICAN STANDARD 1 ทาง

สินค้าแนะนำ

สินค้าหมดแล้ว
- 15%
Original price was: ฿330.00.Current price is: ฿280.00.
สินค้าหมดแล้ว
สินค้าหมดแล้ว

ถ้าเราเลือกใช้ สต๊อปวาล์ว ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน ก็จะเป็นประโยชน์กับการใช้งานของคุณ วันนี้ วีโฮม ได้นำบทความจึงอยากให้คุณใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่ อาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับบ้านของคุณ วีโฮม หวังว่าบทความ ควรเลือกใช้สต๊อปวาล์วแบบไหนดี ? นี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณนะคะ เพราะเราคือ “วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ” พร้อมให้คำแนะนำ และ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ facebook fanpage : WeHome วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ แอดมินยินดีให้คำปรึกษานะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ : https://www.baan9chang.com/stop-valve-ceramic-valve-or-ball-valve/

https://www.eurooriental.co.th/ballvalve/

วิธีการสั่งซื้อทางช่องอื่น

📲1. ช้อปผ่าน LINE : @wehomeonline

📥2. ช้อบผ่าน Inbox Facebook Page : m.me/WeHomeOnline

🌍3. ช้อปผ่านเว็บไซต์ https://www.wehome.co.th ตลอด 24 ชม.

🛒4. ช้อปผ่าน LAZADA : https://www.lazada.co.th/shop/wehome-online

🛒5. ช้อปผ่าน Shopee : https://www.shopee.co.th/wattanaonline

🛒6. ช้อปผ่าน JD CENTRAL : https://www.jd.co.th/shop/pc/27676.html

🛒7. ช้อปผ่าน NOC NOC  :

📞8. โทรหาเราสั่งของได้ 074-338-000

3 เทคนิคเลือกสายน้ำดีให้เหมาะสม

3เทคนิคเลือกสายน้ำดีให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ
3เทคนิคเลือกสายน้ำดีให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ

เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักสายน้ำดีได้ดีพอ อาจตั้งคำถามว่าสายน้ำดี คืออะไร สายน้ำดีมีกี่ประเภทใช้ทำประโยชน์อะไรได้บ้าง หรือสายน้ำดีแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร สายน้ำดี คือ เส้นทางเดินน้ำดีเข้าสู่อุปกรณ์ในห้องน้ำไม่ว่าจะเป็นสายน้ำดี ที่ต่อกับก๊อกน้ำ อ่างล้างหน้า  อ่างล้านจาน อ่างล้างมือ หรือแม้กระทั่งสายน้ำดีต่อเข้าชักโครกก็ตาม ซึ่งตัวสายน้ำดีนั้นก็แยกออกเป็นสองแบบหลักๆ คือ สายน้ำดีใยแก้ว และสายน้ำดีสเตนเลสถัก ทั้งสองแบบนั้นต่างทำหน้าที่เดียวกัน แต่จะมีข้อแตกต่างกันที่ตรงไหนบ้าง และควรเลือกซื้อแบบไหน วันนี้ทาง “วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ” ได้นำไอเดีย ความรู้เกี่ยวกับสายน้ำดีมาฝากกันนะคะ

สายน้ำดีมีกี่ประเภท ใช้ทำประโยชน์อะไร ?

ความแตกต่าง สายน้ำดี อย่างไร ?

ถ้าพูดถึงการออกแบบอวัตถุประสงค์ โดยไม่คำนึงถึงความสวยงาม และความชอบส่วนตัว สายน้ำดีสองแบบนี้ จะต่างกันที่แรงดันน้าสูงสุดที่สายสองชนิดนี้รับยบได้ ซึ่งอาจจะแตกต่างไปตามยี่ห้อที่เราเลือกซื้อ ซึ่งข้อมูลในเรื่องของแรงดันที่สายนั้นๆ รับได้อาจจะแจ้งไว้ที่ตัวผลิตภัณฑ์ ที่ใช้คำว่า อาจจะ เพราะประเทศไทย เอาอะไรแน่นอนไม่ค่อยได้ ถ้าไปซื้อตามร้านขายวัสดุทั่วๆไป บางทอาจจะได้สายในห่อพลาสติก แล้วเขียนราคาด้วยปากกาเมจิก ด้วน ๆ ห้วน ๆ ไม่มีระบุยี่ห้อ ไม่ระบุอะไรให้รู้เลย ก็มีวางขายกันให้เกลื่อน สายน้ำดี 2 ประเภทแตกต่างการ ตรงที่ สายน้ำดีใบแก้วจะทนรงดันน้ำได้ ไม่มากเท่ากับสายน้ำดีสเตนเลสถัก

โดยทั่วไปสายเสริมใยแก้วที่เป็นพลาสติกสีขาวจะทนแรงดันน้ำได้น้อยที่สุดที่ 2 บาร์ ส่วนแบบพลาสติกใสจะทนได้ 5 บาร์เป็นอย่างน้อย ซึ่งแรงดันน้ำในบ้านทั่วไปการประปาตั้งมาตรฐานไว้ให้มีแรงดันประมาณ 1.5-2 บาร์ ฉะนั้นสายทั้งสองมีคุณภาพพอที่จะใช้งานทั่วไป ความแข็งแรงก็ต้องแลกมาซึ่งบางอย่างเช่นกัน ความยืดหยุ่นของสายพลาสติกใสจะน้อยกว่าพลาสติกขาว สายชำระซึ่งต้องเคลื่อนไหวไปมาจึงใช้แบบพลาสติกสีขาว

ส่วนสายสแตนเลสโดยทั่วไปทนแรงดันน้ำได้มากกว่า 10 บาร์ เนื่องจากมีสแตนเลสที่เสริมไว้ด้านนอกทำให้สายพลาสติกภายในไม่แตกจากแรงดันได้ง่าย ๆแต่ความทนทานของสายสแตนเลส ไม่ได้หมายถึงอายุการใช้งานจะยืนยาวกว่า อย่างน้อยก็ไม่ได้เกี่ยวกันโดยตรง อายุของสายสแตนเลสถักจะยืนยาวหรือไม่ ขึ้นกับคุณภาพพลาสติก และคุณภาพสแตนเลสที่หุ้มเป็นสำคัญ หากเป็นสายสแตนเลสถักคุณภาพแย่ สแตนเลสจะขึ้นสนิมได้ หรือฉีกขาดง่าย พลาสติกข้างในยืดหยุ่นน้อย และเมื่อสแตนเลสถักเสื่อมคุณภาพ พลาสติกข้างในซึ่งไม่ได้เสริมใยอะไรไว้เลยก็จะเสียหายอย่างรวดเร็วไปตามกันทันที และเนื่องจากสแตนเลสที่ถักไว้บดบังพลาสติกข้างในจนหมด เราจึงหมดสิทธิ์รู้ว่าสภาพของพลาสติกที่อยู่ข้างในดีหรือไม่ หากใช้พลาสติกคุณภาพไม่ดี แม้จะเพิ่งซื้อมาใหม่ แต่เมื่อจับหักโค้งมากเกินไป ก็ปริแตกได้ง่าย

ตารางบอกการใช้ แรงดันน้ำ ?

แรงดันน้ำตามบ้านทั่วไปจากเครื่องปั้มน้ำ การประปาตั้งมาตรฐานไว้ให้มีแรงดันประมาณ 1.5-2 บาร์

เทคนิคเลือกซื้อสายน้ำดี มีอะไรบ้าง ?

  1. การเลือกสายน้ำดี คุณควรดูปั้มน้ำที่บ้านของคุณ ว่าใช้กี่บาร์ และ ควรดูยี่ห้อที่คุณไว้วางใจและ มีรายละเอียดอย่างครบทวน เพราะอาจจะทำให้คุณ ซื้อสายน้ำดีที่ไม่มีประสิทธิภาพไปใช้ได้
  2. ควรคำนึงถึงการใช้งานที่บ้านของคุณด้วย เพราะสายน้ำดีไม่ได้มีความแข็งแรงทันทานไปตลอดอายุการใช้งาน การดูแลก็มีส่วนทำให้สายน้ำดีของคุณ มีอายุการใช้งานได้นานยิ่งขึ้น
  3. การดูราคาก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราต้องเข้าใจว่า สายน้ำดีนั้นเป็นของแท้ ดีจริงหรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่ของถูกและดี มักจะมาพร้อมกับความไม่แน่นอน และไม่ยั้งยืน ยิ่งถ้าเป็นสายน้ำดีสแตนเลส แต่ราคาถูก กว่าสายน้ำดีใยแก้ว หรือราคาเท่ากัน คุณต้องระวังด้วยนะคะ

สินค้าแนะนำ

          เคล็ดลับง่ายๆในการดูแลสายน้ำดีของคุณ : หมั่นตรวจเช็ค สายน้ำดีใต้อ่างล้างหน้า  สายน้ำดีชักโครก สายน้ำดีเครื่องทำน้ำอุ่น อยู่สม่ำเสมอ และ เพื่อยืดอายุการใช้งานของสายน้ำดี ควรติดตั้งสต๊อปวาล์ว มินิวาล์ว เพื่อลดแรงดันน้ำที่ส่งไปถึงสายน้ำดีได้

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับ “3 เทคนิคเลือกสายน้ำดีให้เหมาะสม” ตัวสายน้ำดี ไม่ได้มีแบบไหนดี และเสียแต่อย่างไรนะคะ นอกจากการเลือกใช้สายน้ำดี แล้ว วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ ได้นำเรื่อง “ควรเลือกใช้สต๊อปวาล์วแบบไหนดี ?” ให้คุณผู้อ่านได้มาอ่านกันอีกด้วยนะคะ ได้ทั้งความรู้ ความเข้าใจในการเลือกซื้อ ให้เหมาะกับห้องน้ำหรือ บ้านของคุณกันนะคะ

สายน้ำดีมีกี่ประเภท ใช้ทำประโยชน์อะไร ?

ความแตกต่าง สายน้ำดี อย่างไร ?

ถ้าพูดถึงการออกแบบอวัตถุประสงค์ โดยไม่คำนึงถึงความสวยงาม และความชอบส่วนตัว สายน้ำดีสองแบบนี้ จะต่างกันที่แรงดันน้าสูงสุดที่สายสองชนิดนี้รับยบได้ ซึ่งอาจจะแตกต่างไปตามยี่ห้อที่เราเลือกซื้อ ซึ่งข้อมูลในเรื่องของแรงดันที่สายนั้นๆ รับได้อาจจะแจ้งไว้ที่ตัวผลิตภัณฑ์ ที่ใช้คำว่า อาจจะ เพราะประเทศไทย เอาอะไรแน่นอนไม่ค่อยได้ ถ้าไปซื้อตามร้านขายวัสดุทั่วๆไป บางทอาจจะได้สายในห่อพลาสติก แล้วเขียนราคาด้วยปากกาเมจิก ด้วน ๆ ห้วน ๆ ไม่มีระบุยี่ห้อ ไม่ระบุอะไรให้รู้เลย ก็มีวางขายกันให้เกลื่อน สายน้ำดี 2 ประเภทแตกต่างการ ตรงที่ สายน้ำดีใบแก้วจะทนรงดันน้ำได้ ไม่มากเท่ากับสายน้ำดีสเตนเลสถัก

โดยทั่วไปสายเสริมใยแก้วที่เป็นพลาสติกสีขาวจะทนแรงดันน้ำได้น้อยที่สุดที่ 2 บาร์ ส่วนแบบพลาสติกใสจะทนได้ 5 บาร์เป็นอย่างน้อย ซึ่งแรงดันน้ำในบ้านทั่วไปการประปาตั้งมาตรฐานไว้ให้มีแรงดันประมาณ 1.5-2 บาร์ ฉะนั้นสายทั้งสองมีคุณภาพพอที่จะใช้งานทั่วไป ความแข็งแรงก็ต้องแลกมาซึ่งบางอย่างเช่นกัน ความยืดหยุ่นของสายพลาสติกใสจะน้อยกว่าพลาสติกขาว สายชำระซึ่งต้องเคลื่อนไหวไปมาจึงใช้แบบพลาสติกสีขาว

ส่วนสายสแตนเลสโดยทั่วไปทนแรงดันน้ำได้มากกว่า 10 บาร์ เนื่องจากมีสแตนเลสที่เสริมไว้ด้านนอกทำให้สายพลาสติกภายในไม่แตกจากแรงดันได้ง่าย ๆแต่ความทนทานของสายสแตนเลส ไม่ได้หมายถึงอายุการใช้งานจะยืนยาวกว่า อย่างน้อยก็ไม่ได้เกี่ยวกันโดยตรง อายุของสายสแตนเลสถักจะยืนยาวหรือไม่ ขึ้นกับคุณภาพพลาสติก และคุณภาพสแตนเลสที่หุ้มเป็นสำคัญ หากเป็นสายสแตนเลสถักคุณภาพแย่ สแตนเลสจะขึ้นสนิมได้ หรือฉีกขาดง่าย พลาสติกข้างในยืดหยุ่นน้อย และเมื่อสแตนเลสถักเสื่อมคุณภาพ พลาสติกข้างในซึ่งไม่ได้เสริมใยอะไรไว้เลยก็จะเสียหายอย่างรวดเร็วไปตามกันทันที และเนื่องจากสแตนเลสที่ถักไว้บดบังพลาสติกข้างในจนหมด เราจึงหมดสิทธิ์รู้ว่าสภาพของพลาสติกที่อยู่ข้างในดีหรือไม่ หากใช้พลาสติกคุณภาพไม่ดี แม้จะเพิ่งซื้อมาใหม่ แต่เมื่อจับหักโค้งมากเกินไป ก็ปริแตกได้ง่าย

ตารางบอกการใช้ แรงดันน้ำ ?

แรงดันน้ำตามบ้านทั่วไปจากเครื่องปั้มน้ำ การประปาตั้งมาตรฐานไว้ให้มีแรงดันประมาณ 1.5-2 บาร์

เทคนิคเลือกซื้อสายน้ำดี มีอะไรบ้าง ?

  1. การเลือกสายน้ำดี คุณควรดูปั้มน้ำที่บ้านของคุณ ว่าใช้กี่บาร์ และ ควรดูยี่ห้อที่คุณไว้วางใจและ มีรายละเอียดอย่างครบทวน เพราะอาจจะทำให้คุณ ซื้อสายน้ำดีที่ไม่มีประสิทธิภาพไปใช้ได้
  2. ควรคำนึงถึงการใช้งานที่บ้านของคุณด้วย เพราะสายน้ำดีไม่ได้มีความแข็งแรงทันทานไปตลอดอายุการใช้งาน การดูแลก็มีส่วนทำให้สายน้ำดีของคุณ มีอายุการใช้งานได้นานยิ่งขึ้น
  3. การดูราคาก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราต้องเข้าใจว่า สายน้ำดีนั้นเป็นของแท้ ดีจริงหรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่ของถูกและดี มักจะมาพร้อมกับความไม่แน่นอน และไม่ยั้งยืน ยิ่งถ้าเป็นสายน้ำดีสแตนเลส แต่ราคาถูก กว่าสายน้ำดีใยแก้ว หรือราคาเท่ากัน คุณต้องระวังด้วยนะคะ

สินค้าแนะนำ

          เคล็ดลับง่ายๆในการดูแลสายน้ำดีของคุณ : หมั่นตรวจเช็ค สายน้ำดีใต้อ่างล้างหน้า  สายน้ำดีชักโครก สายน้ำดีเครื่องทำน้ำอุ่น อยู่สม่ำเสมอ และ เพื่อยืดอายุการใช้งานของสายน้ำดี ควรติดตั้งสต๊อปวาล์ว มินิวาล์ว เพื่อลดแรงดันน้ำที่ส่งไปถึงสายน้ำดีได้

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับ “3 เทคนิคเลือกสายน้ำดีให้เหมาะสม” ตัวสายน้ำดี ไม่ได้มีแบบไหนดี และเสียแต่อย่างไรนะคะ นอกจากการเลือกใช้สายน้ำดี แล้ว วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ ได้นำเรื่อง “ ควรเลือกใช้สต๊อปวาล์วแบบไหนดี ? ” ให้คุณผู้อ่านได้มาอ่านกันอีกด้วยนะคะ ได้ทั้งความรู้ ความเข้าใจในการเลือกซื้อ ให้เหมาะกับห้องน้ำหรือ บ้านของคุณกันนะคะ

ขอขอบคุณ ข้อมูลจากเว็บ

www.baan9chang.com/สายน้ำดีใยแก้ว-สแตนเลส/

https://www.globalhouse.co.th/Educationhouse/educationpage/237

วิธีการสั่งซื้อทางช่องอื่น

📲1. ช้อปผ่าน LINE : @wehomeonline

📥2. ช้อบผ่าน Inbox Facebook Page : m.me/WeHomeOnline

🌍3. ช้อปผ่านเว็บไซต์ https://www.wehome.co.th ตลอด 24 ชม.

🛒4. ช้อปผ่าน LAZADA : https://www.lazada.co.th/shop/wehome-online

🛒5. ช้อปผ่าน Shopee : https://www.shopee.co.th/wattanaonline

🛒6. ช้อปผ่าน JD CENTRAL : https://www.jd.co.th/shop/pc/27676.html

🛒7. ช้อปผ่าน NOC NOC  :

📞8. โทรหาเราสั่งของได้ 074-338-000

ขอขอบคุณ ข้อมูลจากเว็บ

www.baan9chang.com/สายน้ำดีใยแก้ว-สแตนเลส/

https://www.globalhouse.co.th/Educationhouse/educationpage/237

วิธีการสั่งซื้อทางช่องอื่น

📲1. ช้อปผ่าน LINE : @wehomeonline

📥2. ช้อบผ่าน Inbox Facebook Page : m.me/WeHomeOnline

🌍3. ช้อปผ่านเว็บไซต์ https://www.wehome.co.th ตลอด 24 ชม.

🛒4. ช้อปผ่าน LAZADA : https://www.lazada.co.th/shop/wehome-online

🛒5. ช้อปผ่าน Shopee : https://www.shopee.co.th/wattanaonline

🛒6. ช้อปผ่าน JD CENTRAL : https://www.jd.co.th/shop/pc/27676.html

🛒7. ช้อปผ่าน NOC NOC  :

📞8. โทรหาเราสั่งของได้ 074-338-000

ทำความรู้จักกับชนิดของ “หลอดไฟ”

ทำความรู้จักกับหลอดไฟ
ทำความรู้จักกับหลอดไฟ

       หลอดไฟเป็นอุปกรณ์ที่มีอายุ หรือการใช้งาน เมื่อเสื่อมสภาพก็ต้องซื้อหลอดใหม่มาเปลี่ยน ดังนั้นหากจะพูดถึงความประหยัด หรือความคุ้มค่าแล้วนั้น นอกจากพลังงานที่ใช้คงต้องนำเรื่องของอายุการใช้งานมาเป็นส่วนประกอบด้วย รวมไปถึงราคา และการให้ความสว่าง

       หลอดไฟที่เมื่อเทียบแล้วประหยัด และคุ้มค่าที่สุดในปัจจุบัน คงต้องยกให้หลอดไฟแอลอีดี (LED) ในสมัยที่หลอดไปแอลอีดีถูกคิดค้นขึ้นมาแรกๆ มีราคาค่อนข้างสูง ทำให้คนไม่นิยมเลือกใช้ถึงแม้ว่าจะมีอายุการใช้งานนานกว่าหลอดไฟแบบอื่นๆ แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้หลอดไฟแอลอีดี (LED) มีราคาที่ถูกลง ไม่ต่างจากหลอดประเภทอื่นมากนัก

       นอกจากเรื่องของราคาที่ไม่แตกต่างจากหลอดไฟแบบอื่นๆ มาก หลอดไฟแบบแอลอีดี (LED) ยังประหยัดพลังงานได้ถึง 90% เมื่อเทียบกับหลอดไฟแบบหลอดไส้ และประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดตะเกียบถึง 40% แถมอายุการใช้งานมากกว่าหลอดไฟแบบหลอดไส้ถึง 15 เท่า

สารบัญ

เลือกซื้อหลอดไฟต้องดูอะไรบ้าง?

หลายๆ คนมักเข้าใจผิดว่าการจะเลือกหลอดไฟให้ดูที่วัตต์ ยิ่งวัตต์มากยิ่งสว่าง แต่จริงๆ แล้ววัตต์เป็นหน่วยของพลังงานที่ใช้ ยิ่งมากแปลว่ายิ่งกินไฟ การที่เราจะเลือกหลอดไฟมาใช้มีองค์ประกอบต่างๆ ที่เราต้องนำมาพิจารณาอยู่หลายตัวด้วยกัน

1.ค่าพลังงาน : มีหน่วยเป็นวัตต์ที่เราเห็นบนกล่องหลอดไฟ เป็นค่าพลังงานที่ใช้ ยิ่งวัตต์สูง ยิ่งทำให้ใช้ไฟฟ้ามากตามไปด้วย

2.ค่าฟลักซ์แสงสว่าง : มีหน่วยเป็นลูเมน (Lumen) เป็นหน่วยวัดความสว่างของแสงที่เปล่งออกมา ยิ่งมากแสดงว่าหลอดไฟดวงนี้ให้แสงสว่างมาก

3.ค่าประสิทธิภาพ : หรือเรียกว่า Efficacy เป็นการนำค่าแสงสว่าง (ลูเมน) มาหารด้วยค่าพลังงาน (วัตต์) ค่าที่ออกมา แปลได้ว่า หลอดไฟหลอดนี้ใช้พลังงาน 1 วัตต์ ให้แสงสว่างกี่ลูเมน ยิ่งสูงแปลว่า 1 วัตต์ให้แสงสว่างเยอะ ทำให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

4.ค่าความถูกต้องของสี : หรือ Color Rendering Index (CRI) เป็นค่าที่บอกว่าแสงไฟจากหลอดไฟหลอดนี้ เมื่อกระทบกับวัตถุจะทำให้สีของวัตถุเพี้ยนจากความเป็นจริงมากน้อยเพียงใด ซึ่งใช้มาตรฐานจากแสงอาทิตย์ที่ถือว่าเป็นแสงธรรมชาติ หากหลอดไฟหลอดใดมีค่า CRI สูงยิ่งให้ความถูกต้องของสีวัตถุใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์มากที่สุด ทำให้สีไม่เพี้ยน และดวงตาของเราไม่ทำงานหนักเกินไป

5.ขั้วหลอดไฟ : การจะซื้อหลอดไฟ เราจำเป็นต้องดูที่ขั้วหลอดไฟให้ตรงกับแท่นขั้วที่เราจะนำหลอดไฟไปใช้งาน ซึ่งปกติแล้วขั้วหลอดไฟที่นิยมใช้จะมี  E27 E14 (ขั้วเกลียว) G10 (ขั้วขาตะเกียบ)

* ค่าต่างๆ สามารถดูได้ที่ข้างกล่องของหลอดไฟได้เลย!! *

หลอดไฟมีกี่ประเภท ใช้ทำอะไรบ้าง?

หลอดไฟแบบหลอดไส้ (Incandescent)

          หลอดไฟชนิดนี้มีลักษณะภายนอกเหมือนที่เราคุ้นตาคือเป็นหลอดแก้ว ภายในมีลวดขดอยู่ทำจากทังสเตน เมื่อเปิดไฟใช้งาน กระแสไฟฟ้าจะเกิดความร้อน ยิ่งร้อนมาก ยิ่งให้แสงสว่างมาก แต่เป็นหลอดไฟที่สิ้นเปลืองพลังงาน เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าที่ปล่อยเข้าไป ถูกใช้ไปกับการทำความร้อนเสียมากกว่า และมีอายุการใช้งานต่ำ

หลอดไฟแฮโลเจน (Halogen)

        หลอดไฟแฮโลเจน เป็นหลอดไฟที่มีลักษณะและหลักการทำงานเหมือนๆ กับหลอดไฟแบบหลอดไส้ แต่แตกต่างกับที่หลอดไฟแบบแฮโลเจนมีการใส่สารกลุ่มฮาโลเจนลงไป ทำให้ยืดอายุการใช้งานของหลอดไฟ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากกว่าหลอดไฟแบบแรก

หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent)

       หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์หรือที่เรารู้จักในชื่อหลอดไฟนีออน มีลักษณะเป็นหลอดแก้วภายในบรรจุแก๊ส มีขั้วหลอดสองฝั่ง เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าจะไหลจากขั้วหนึ่งไปอีกขั้วหนึ่ง ในขณะไหลไปจะมีอิเล็กตรอนไหลไปด้วย เมื่ออิเล็กตรอนไหลไปชนกับอะตอมของปรอท จะเกิดเป็นพลังงานและรังสีอัลตราไวโอเลตทำให้เกิดแสงสว่าง แต่ภายในหลอดแก้วเคลือบด้วยสารดูดซับสีขาว ซึ่งจะดูดซับรังสียูวี และปล่อยออกมาเฉพาะแสงที่เรามองเห็น หลอดไฟชนิดนี้จะต้องใช้งานร่วมกับบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์

หลอดไฟแอลอีดี (LED)

        LED ย่อมาจาก Light Emitting Diodes เป็นนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และค่อยๆ ทยอยเข้ามาแทนที่หลอดไฟแบบเก่า ด้วยหลักการทำงานของหลอดไฟแอลอีดีคือ เป็นการปล่อยไฟฟ้าไปที่ชิป และให้แสงสว่างจากอิเล็กตรอน โดยไม่มีการทำให้เกิดความร้อน ไม่เผาไส้หลอด และด้วยรูปทรงที่มีขนาดเล็กทำให้ลดทอนข้อจำกัดในเรื่องการออกแบบเพื่อนำหลอดไฟไปใช้งาน

นอกจากนี้ เรายังพาเพื่อนมารู้จัก ค่าอุณหภูมิสี (Color Temperature) ที่มีสีแตกต่างในการใช้งาน แล้วสมควรใช้งานในห้องแบบไหน ไปดูกัน

ค่าอุณหภูมิ และสี มีอะไรบ้าง?

Color Temperature มีหน่วยเป็น Kelvin (K) ซึ่งมีพื้นฐานมาจากสีของท้องฟ้าในแต่ละช่วง มีตั้งแต่ 1,000-10,000 องศาเคลวิน (K) หลักๆ แบ่งออกเป็น 3 โทน

ขอขอบคุณภาพจาก  : www.sangfi.com

1. แสงวอร์มไวท์ (Warmwhite) : มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 2,000-3,000 K เป็นแสงโทนสีเหลืองเข้ม เป็นสีที่มีผลต่อความรู้สึก ทำให้อบอุ่นและผ่อนคลาย จึงเหมาะนำไปใช้ในสถานที่ให้บริการ อย่างร้านสปา โรงแรม หรือตามบ้านเรือนอย่างในห้องนอน ห้องน้ำ เป็นต้น

- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 60%
Original price was: ฿139.18.Current price is: ฿55.00.
- 64%
Original price was: ฿108.25.Current price is: ฿39.00.
- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 60%
สินค้าหมดแล้ว
Original price was: ฿139.18.Current price is: ฿55.00.
- 64%
Original price was: ฿108.25.Current price is: ฿39.00.

2. แสงคูลไวท์ (Coolwhite) : มีอุณหภูมิสี 4,000-5,000 K เป็นแสงโทนสีเหลืองขาว คุณสมบัติคือทำให้สีจากวัตถุดูคมชัดและเข้มขึ้น ไม่นิยมนำมาใช้ แต่จะถูกใช้ไปกับงานป้าย งานโชว์สินค้า ไฟบนเวที เป็นต้น

3. แสงเดย์ไลท์ (Daylight) : มีอุณหภูมิสีที่ 6,000 K เป็นแสงโทนสีขาว เป็นสีที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด นิยมใช้เนื่องจากทำให้แสงที่สะท้อนจากวัตถุไม่เพี้ยน จะพบเห็นได้ตามสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม บ้านเรือน เป็นต้น

- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
สินค้าหมดแล้ว
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.

นอกจากนี้ เรายังพาเพื่อนมารู้จัก ค่าอุณหภูมิสี (Color Temperature) ที่มีสีแตกต่างในการใช้งาน แล้วสมควรใช้งานในห้องแบบไหน ไปดูกัน

ค่าอุณหภูมิ และสี มีอะไรบ้าง?

Color Temperature มีหน่วยเป็น Kelvin (K) ซึ่งมีพื้นฐานมาจากสีของท้องฟ้าในแต่ละช่วง มีตั้งแต่ 1,000-10,000 องศาเคลวิน (K) หลักๆ แบ่งออกเป็น 3 โทน

ขอขอบคุณภาพจาก  : www.sangfi.com

1. แสงวอร์มไวท์ (Warmwhite) : มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 2,000-3,000 K เป็นแสงโทนสีเหลืองเข้ม เป็นสีที่มีผลต่อความรู้สึก ทำให้อบอุ่นและผ่อนคลาย จึงเหมาะนำไปใช้ในสถานที่ให้บริการ อย่างร้านสปา โรงแรม หรือตามบ้านเรือนอย่างในห้องนอน ห้องน้ำ เป็นต้น

- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 60%
Original price was: ฿139.18.Current price is: ฿55.00.
- 64%
Original price was: ฿108.25.Current price is: ฿39.00.

2. แสงคูลไวท์ (Coolwhite) : มีอุณหภูมิสี 4,000-5,000 K เป็นแสงโทนสีเหลืองขาว คุณสมบัติคือทำให้สีจากวัตถุดูคมชัดและเข้มขึ้น ไม่นิยมนำมาใช้ แต่จะถูกใช้ไปกับงานป้าย งานโชว์สินค้า ไฟบนเวที เป็นต้น

- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 60%
สินค้าหมดแล้ว
Original price was: ฿139.18.Current price is: ฿55.00.
- 64%
Original price was: ฿108.25.Current price is: ฿39.00.

3. แสงเดย์ไลท์ (Daylight) : มีอุณหภูมิสีที่ 6,000 K เป็นแสงโทนสีขาว เป็นสีที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด นิยมใช้เนื่องจากทำให้แสงที่สะท้อนจากวัตถุไม่เพี้ยน จะพบเห็นได้ตามสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม บ้านเรือน เป็นต้น

- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
สินค้าหมดแล้ว
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.

นอกจากนี้ เรายังพาเพื่อนมารู้จัก ค่าอุณหภูมิสี (Color Temperature) ที่มีสีแตกต่างในการใช้งาน แล้วสมควรใช้งานในห้องแบบไหน ไปดูกัน

ค่าอุณหภูมิ และสี มีอะไรบ้าง?

Color Temperature มีหน่วยเป็น Kelvin (K) ซึ่งมีพื้นฐานมาจากสีของท้องฟ้าในแต่ละช่วง มีตั้งแต่ 1,000-10,000 องศาเคลวิน (K) หลักๆ แบ่งออกเป็น 3 โทน

ขอขอบคุณภาพจาก  : www.sangfi.com

1. แสงวอร์มไวท์ (Warmwhite) : มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 2,000-3,000 K เป็นแสงโทนสีเหลืองเข้ม เป็นสีที่มีผลต่อความรู้สึก ทำให้อบอุ่นและผ่อนคลาย จึงเหมาะนำไปใช้ในสถานที่ให้บริการ อย่างร้านสปา โรงแรม หรือตามบ้านเรือนอย่างในห้องนอน ห้องน้ำ เป็นต้น

- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 60%
Original price was: ฿139.18.Current price is: ฿55.00.
- 64%
Original price was: ฿108.25.Current price is: ฿39.00.
- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 60%
สินค้าหมดแล้ว
Original price was: ฿139.18.Current price is: ฿55.00.
- 64%
Original price was: ฿108.25.Current price is: ฿39.00.

2. แสงคูลไวท์ (Coolwhite) : มีอุณหภูมิสี 4,000-5,000 K เป็นแสงโทนสีเหลืองขาว คุณสมบัติคือทำให้สีจากวัตถุดูคมชัดและเข้มขึ้น ไม่นิยมนำมาใช้ แต่จะถูกใช้ไปกับงานป้าย งานโชว์สินค้า ไฟบนเวที เป็นต้น

3. แสงเดย์ไลท์ (Daylight) : มีอุณหภูมิสีที่ 6,000 K เป็นแสงโทนสีขาว เป็นสีที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด นิยมใช้เนื่องจากทำให้แสงที่สะท้อนจากวัตถุไม่เพี้ยน จะพบเห็นได้ตามสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม บ้านเรือน เป็นต้น

- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
สินค้าหมดแล้ว
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.

หลอดไฟแบบไหนประหยัดที่สุด ?

หลอดไฟที่เมื่อเทียบแล้วประหยัดและคุ้มค่าที่สุดในปัจจุบัน คงต้องยกให้หลอดไฟแอลอีดี (LED) ในสมัยที่หลอดไฟแอลอีดีถูกคิดค้นขึ้นมาแรกๆ มีราคาค่อนข้างสูง ทำให้คนไม่นิยมเลือกใช้ถึงแม้ว่าจะมีอายุการใช้งานนานกว่าหลอดไฟแบบอื่นๆ แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้หลอดไฟแอลอีดี (LED) มีราคาที่ถูกลง ไม่ต่างจากหลอดประเภทอื่นมากนัก

หลอดไฟแบบแอลอีดี (LED) ยังประหยัดพลังงานได้ถึง 90% เมื่อเทียบกับหลอดไฟแบบหลอดไส้ และประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดตะเกียบถึง 40% แถมอายุการใช้งานมากกว่าหลอดไฟแบบหลอดไส้ถึง 15 เท่า

ข้อดีเพิ่มเติม : ของหลอดไฟแอลอีดี (LED) เมื่อเทียบกับแบบอื่นๆ คือเป็นหลอดไฟที่ไม่ปล่อยรังสียูวี ทำให้ปลอดภัยต่อผิวของเรา รวมทั้งให้แสงสว่างที่ถูกต้อง ชัดเจน ทำให้สีวัตถุไม่เพี้ยน และบางรุ่นก็สามารถปรับโทนสีได้ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะถูกพัฒนาให้ใช้พลังงานน้อยลงเรื่อย ๆ อีกด้วย

สินค้าแนะนำ

- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 67%
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 60%
Original price was: ฿139.18.Current price is: ฿55.00.
- 67%
สินค้าหมดแล้ว
Original price was: ฿179.38.Current price is: ฿60.00.
- 60%
สินค้าหมดแล้ว
Original price was: ฿139.18.Current price is: ฿55.00.
- 60%
Original price was: ฿139.18.Current price is: ฿55.00.
- 64%
Original price was: ฿108.25.Current price is: ฿39.00.
- 64%
Original price was: ฿108.25.Current price is: ฿39.00.

       เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับ บทความ ทำความรู้จักกับชนิดของ “หลอดไฟ” แล้วยังให้ความรู้เกี่ยวกับ ค่าอุณหภูมิสี และใช้หลอดแบบไหนประหยัดที่สุด อีก หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการเลือกใช้หลอดไฟให้ตรงกับความต้องการของทุกคนนะคะ เพราะเราคือ วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ พร้อมให้คำแนะนำ และ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ facebook fanpage : “WeHome วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ” แอดมินยินดีให้คำปรึกษา

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ  :  httpd://www.officemate.co.th/blog/เลือกหลอดไฟ-คุ้มค่า/

                                : http://infographic.in.th/infographic/หลอดไฟแบบไหนที่ช่วยประ

วิธีการสั่งซื้อทางช่องอื่น

📲1. ช้อปผ่าน LINE : @wehomeonline

📥2. ช้อบผ่าน Inbox Facebook Page : m.me/WeHomeOnline

🌍3. ช้อปผ่านเว็บไซต์ https://www.wehome.co.th ตลอด 24 ชม.

🛒4. ช้อปผ่าน LAZADA : https://www.lazada.co.th/shop/wehome-online

🛒5. ช้อปผ่าน Shopee : https://www.shopee.co.th/wattanaonline

🛒6. ช้อปผ่าน JD CENTRAL : https://www.jd.co.th/shop/pc/27676.html

🛒7. ช้อปผ่าน NOC NOC  :

📞8. โทรหาเราสั่งของได้ 074-338-000

บานพับแต่ละประเภท ใช้ทำอะไร

บานพับแต่ละประเภท ใช้ทำอะไร
บานพับแต่ละประเภท ใช้ทำอะไร

พูดถึงบานพับ เป็น 1 อุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับประตู เพราะบานพับเป็นอุปกรณที่ช่วยในการถ่ายแรง หรือรับน้ำหนักบานประตูหรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีบานเปิด อย่างเช่น ตู้ต่างๆ เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อระหว่างบานประตูกับวงกบ ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกในการเปิดปิดบานประตูหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องใช้บานพับได้อย่างง่ายดาย ซึ่งบานพับที่นิยมนำมาใช้งานก็มีด้วยการหลายรูปแบบ และบทความนี้ จะพาทุกท่านไปรู้จักกับบานพับแต่ละประเภท และการนำไปใช้งานที่เหมาะสม และวันนี้ “วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ” ได้จัดทำบทความนี้ ให้คุณลูกค้า และคุณผู้อ่าน ได้มาทำความรู้จัก กับ บานพับแต่ละประเภทบวกกับการใช้งาน และยังบอกถึงข้อแนะนำก่อนการเลือกซื้อบานพับ

วีโฮม ได้หยิบยกตัวอย่าง บานพับโดยทั่วไปที่แบ่งออกได้ 4 ประเภทหลักๆ ได้แก่

รวมภาพบานพับ

ทั้ง 4 แบบ จะมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันแต่มีหน้าที่เหมือนกัน นั้นก็คือการ เปิด-ปิด หน้าบาน

             บานพับปีกผีเสื้อ เป็นบานพับที่พบเห็นได้ทั่วไปและนิยมนำมาใช้กับงานติดตั้งบานประตู มีลักษณะคล้ายปีกผีเสื้อ 2 บาน มีแกนกลางที่สามารถหมุนได้ ซึ่งจุดสังเกตคือแกนหมุนนี้เราจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเมื่อปิดประตู การติดตั้งใช้งานโดยให้ด้านหนึ่งยึดกับบานประตู ส่วนอีกด้านยึดกับวงกบ บานพับชนิดนี้มีวัสดุให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เหล็กชุบสี ทองแดง ทองเหลือง ส่วนที่ใช้กันบ่อยที่สุดคือ สเตนเลส เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นเรื่องความทนทาน และไม่เป็นสนิม

              เป็นบานพับที่ใช้สำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ เช่น บานประตูตู้ต่างๆ รูปแบบการติดตั้งคือติดตั้งแบบซ่อนภายในบานตู้ ซึ่งหากเราปิดบานตู้ จะมองไม่เห็นบานพับแบบถ้วยนี้ รับน้ำหนักได้ไม่เยอะมาก และบานพับรูปแบบนี้จะให้เลือกแบบมีสปริงในตัว ทำให้สามารถเด้งออกเองได้เวลาเปิด

             บานพับข้อเสือ หรือบานพับแบบซ่อน ลักษณะการทำงานคือซ่อนอยู่ในสันของบานประตู เหมาะกับการใช้งานในประเภทงานออกแบบที่ต้องการความสวยงาม เรียบร้อย ดูโมเดิร์น นิยมใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ หรือ การทำบานเฟี้ยม ซึ่งตัวบานพับสามารถเปิดได้ถึง 180 องศา ติดตั้งจะต้องเจาะฝังตัวบานพับ โดย เมื่อปิดบานประตูจะมองไม่เห็นบานพับ วัสดุที่นิยมนำมาใช้ผลิต เช่น Zinc alloy หรือเว้นระยะขอบบานไม้ ประมาณ 5 มม. Stainless

           เป็นบานพับที่เหมาะสำหรับติดตั้งกับบานประตูที่มักใช้เป็นช่องทางผ่าน มีการใช้งานเปิดเข้าออกบ่อย ที่พบเห็นโดยทั่วไป เช่น ประตูคาวบอย ที่ติดตั้งในลักษณะเป็นประตูกั้นระหว่างพื้นที่ สามารถติดตั้งกับวงกบที่ไม่มีบังใบ เปิดสวิงได้แบบ 2 ด้าน ซึ่งบานพับแบบสวิง 1 ตัว จะรับน้ำหนักได้สูงสุดประมาณ 22 กก. นิยมนำไปใช้งานกับประตูไม้แท้ ประตูไม้สำเร็จ และประตูไม้ MDF

3 ข้อแนะนำก่อนการเลือกซื้อบานพับ

1. ขนาดและน้ำหนักของประตู

                บานพับประตูต้องมีความสัมพันธ์กับขนาด และน้ำหนักของประตู หรือหน้าต่าง เพื่อให้รองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น บานประตูบ้านที่มีขนาดใหญ่ จำเป็นต้องเลือกใช้ บานพับผีเสื้อ ที่มีแกนใหญ่และมีปีกหนา ก่อนการเลือกซื้อจึงควรวัดความกว้าง หนา ของประตูเสียก่อน เพื่อให้เกิดความแม่นยำ และความคงทนในการใช้งานในระยะยาวคะ

2. วัสดุของบานพับประตู

               แนะนำให้เลือกใช้ บานพับผีเสื้อ หรือ บานพับซ่อน ที่ผลิตจากวัสดุที่เกิดสนิมค่อนข้างยาก เพราะประตูและหน้าต่างโดยเฉพาะบริเวณหน้าบ้านมีโอกาสโดนน้ำฝน ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง เช่น บานพับที่ผลิตขึ้นจากสเตนเลสสตีล 304 จะมีความคงทนแข็งแรง และ ยากต่อการเกิดสนิม ไม่ผุ และกร่อน ทำให้หน้าต่างและประตูมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

3. สีของบานพับประตู

             นอกจากความแข็งแรง คงทน ของ บานพับประตูเหล็ก หรือหน้าต่างแล้ว เรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ ดีไซน์ ความสวยงาม ของสี บานพับผีเสื้อ เพราะประตู และหน้าต่าง เปรียบเสมือนหน้าตาของบ้าน อุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้งก็ควรมีดีไซน์และโทนสีไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งบานพับประตูก็มีให้เลือกหลากหลายสี ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และตัววัสดุ เช่น สีทองเหลือง สีสเตนเลส เป็นต้น

เป็นยังไงกันบ้างคะ  กับ บทความ “บานพับแต่ละประเภท ใช้ทำอะไร” เราได้ยกตัวอย่างประเภทบานพับแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็น บานพับแบบปีกผีเสื้อ บานพับถ้วย บานพับข้อเสือ และบานพับสวิง เป็นอุปกรณ์ที่สำหคัญมากกับประตู เพราะบานพับ เป็นอุปกรณ์ ที่ช่วยให้ประตูยึดติดกับ วงกบ เราจึงนำมาเขียนเป็นบทความมาให้คุณได้ นำไปปรับใช้ในบ้านของคุณ ไม่ว่าจะเป็นบ้านแบบไหน ก็ ควรเลือกบานพับที่เหมาะกับประตูของคุณกันนะคะ

สินค้าแนะนำ

- 40%
Original price was: ฿166.00.Current price is: ฿99.00.

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์ https://www.wazzadu.com/article/5819

สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ facebook fanpage : “WeHome วีโฮม เพื่อนบ้านที่เข้าใจคุณ” ทางร้านยินดีให้คำปรึกษาคะ

วิธีการสั่งซื้อง่ายๆมาแนะนำคะ

📲1. ช้อปผ่าน LINE : @wehomeonline

📥2. ช้อบผ่าน Inbox Facebook Page : m.me/WeHomeOnline

🌍3. ช้อปผ่านเว็บไซต์ https://www.wehome.co.th ตลอด 24 ชม.

🛒4. ช้อปผ่าน LAZADA : https://www.lazada.co.th/shop/wehome-online

🛒5. ช้อปผ่าน Shopee : https://www.shopee.co.th/wattanaonline

🛒6. ช้อปผ่าน JD CENTRAL : https://www.jd.co.th/shop/pc/27676.html

🛒7. ช้อปผ่าน NOC NOC :

ตกแต่งบ้านให้สวยหรูด้วย“บล็อกแก้ว”

บล็อกแก้ว
บล็อกแก้ว

 

อิฐแก้วหรือบล็อกแก้ว 

เป็นนวัตกรรมที่สามารถก่อพอดี กับผนังทุกประเภท เหมาะสำหรับใช้เพิ่มช่องแสง หรือที่ต้องการให้แสงสว่างเข้ามา เช่น สำหรับตกแต่งบ้าน หรืออาคารทั่วไป  ในบริเวณที่ต้องการแสงผ่าน พร้อมความใส สวยงาม และแข็งแรง ใช้ตกแต่ง และประยุกต์ ใช้กับวัสดุก่อสร้างผนังชนิดอื่นได้อย่างลงตัวนอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ เช่น ฉนวนป้องกันความร้อน ฉนวนป้องกันเสียง ทนต่อสภาพอากาศ และยังให้ความเสน่ห์ ความสวยงาม ให้กับที่อยู่อาศัยของเราได้อีกด้วย บล็อกแก้วเกิดจากชิ้นแก้วที่มีความหนาจึงทำให้คุณภาพในการรับแรงอัดมากกว่า “อิฐมอญ”

มาดูตัวอย่างสไตล์การตกแต่งบ้าน ตกแต่งบ้านให้สวยหรูด้วย“บล็อกแก้ว”

easy to clean
pedestrian
Minimalism in the hotel bathroom

ข้อดีของบล็อกแก้ว

ช่วยประหยัดค่าไฟ

บล็อกแก้วช่วยให้แสงเข้าบ้านได้มากขึ้น เนื่องจากบล็อกแก้วมีลักษณะโปร่งใส สามารถปล่อยให้แสงทะลุผ่านได้ตั้งแต่ 40-75% (แบบใส 75% และแบบสี 40%) หากก่อให้เป็นผนังก็จะช่วยให้บรรยากาศในห้องดูกว้างขึ้น และยังลดการเปิดไฟในเวลากลางวันได้

Glass blocks help to save on electricity bills.
Glass blocks help to save on electricity bills.2

รองรับแรงอัดได้มาก

บล็อกแก้วเป็นวัสดุที่มีความหนาจึงรองรับแรงอัดได้มากถึง 7 Mpa. มากกว่าอิฐมอญถึง 2.5 เท่า อีกทั้งยังทนต่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง การตกแต่งบ้านด้วยผนังบล็อกแก้วจึงแข็งแรงทนทานใช้งานได้อย่างยาวนาน

ตกแต่งได้หลากหลาย

ไม่ว่าจะเป็น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือจะกั้นเป็นห้องสันทนาการภายในบ้านของคุณก็ได้ ด้วยนวัตกรรมบล็อกแก้วมีลวดลายให้เลือกหลากหลาย สามารถนำมาผสมผสานกับผนังบ้านได้อย่างลงตัว หรือจะใช้เป็นผนังกั้นระหว่างห้อง เช่น บล็อกแก้วกั้นห้องน้ำ ระหว่างโซนเปียก และโซนแห้ง ก็จะช่วยให้แสงสว่างกระจายได้ทั่วห้อง

restaurant
no noise, sleep well

ทนความร้อน เก็บเสียง

บล็อกแก้ว ถือเป็นวัสดุที่ทนความร้อนได้เป็นอย่างดี ช่วยให้แสงที่ส่องเข้าบ้านนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น และช่วยป้องกันไฟไหม้ได้ อีกทั้งหากเป็นบล็อกแก้วคุณภาพสูงยังสามารถลดระดับเสียงรบกวนที่เข้าสู่ตัวบ้านได้เป็นอย่างดี

ทำความสะอาดได้ง่าย

ผนังบล็อกแก้วเป็นวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย เพียงเช็ดด้วยน้ำยาทำความสะอาด น้ำยาเช็ดกระจก หรือเช็ดด้วยน้ำเปล่า โดยไม่ต้องขัดหรือทำสี จึงมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยกว่าผนังประเภทอื่น ๆ นอกจากนี้หากเลือกใช้กาวยาแนวที่มีคุณภาพการใช้บล็อกแก้วหรืออิฐแก้วก็ยังปลอดภัยต่อเชื้อรา ไม่เป็นที่สะสมกลิ่นและสารพิษ

Maintenance costs are less than other wall types.

มีความสวยไม่พอ!! ต้องเสริมความแข็งแรงด้วย  “ กาวยาแนว สำหรับบล็อกแก้ว จระเข้ 1 กก. C02091001 ขาวไข่มุก ”

เป็นอย่าไรบ้าง สำหรับการ ตกแต่งบ้านให้สวยหรูด้วย“บล็อกแก้ว” น่าจะทำให้คุณลูกค้า หรือคุณเจ้าของบ้าน เกิดไอเดียดี ๆ ขึ้นมาไม่มากก็น้อย ที่สำคัญใน เรื่องงานก่อสร้างควรเลือกช่างที่มีประสบการณ์ เลือกใช้วัสดุเฉพาะทาง และอย่าลืมเสริมความแข็งแรง กาวยาแนว สำหรับบล็อกแก้ว จระเข้ 1 กก. C02091001 ขาวไข่มุก ที่จะช่วยให้บล็อกแก้ว มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สวยงาม อยู่คู่บ้านของเราไปนาน ๆ

สนใจติดต่อช่างที่มีประสบการณ์ ลิงค์เพจ :  https://www.facebook.com/WattanaQualityHouse

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ ภาพสายๆ จาก  : https://www.bathroomcenter.co.th/content/6943/ข้อควรรู้ในการตกแต่งบ้านด้วย-บล็อกแก้ว

                                                        : https://www.jorakay.co.th/blog/owner/tiling/what-is-a-glass-block-what-are-the-benefits

                                                       : https://www.banidea.com/glass-block-micro-house/

แก้ปัญหาท่อระบายน้ำในบ้านอุดตันง่ายๆ

   “ปัญหาท่อระบายน้ำอุดตัน” โดยเฉพาะพื้นที่ในห้องน้ำ ห้องครัว และริมระเบียง ที่มักเกิดปัญหา   ท่อตันทำให้น้ำเอ่อล้นระหว่างการใช้งาน  ส่งปัญหากลิ่นเหม็น เกิดคราบตะกอนตกค้าง  วันนี้เรา มีวิธีการป้องกัน และแก้ปัญหา นี้สำหรับทุกห้องภายในบ้านมาแนะนำกันค่ะ

 1.เทน้ำเดือดลงท่อระบายน้ำ

      วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาได้บางส่วนเช่น การอุดตันท่อที่เกิดจากสบู่และไขมันที่จับตัวกันอุดตัน  และวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เยอะ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก  ในการเทน้ำร้อนลงท่อควรมีการใช้กรวยหรืออุปกรณ์บรรจุน้ำในขณะที่เท  เพื่อไม่ให้น้ำร้อนกระเด็นหรือหกมาโดนตัวเรา

2.ใช้เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชู (สารเคมีจากธรรมชาติ)

       การขจัดสิ่งอุดตันในท่อระบายน้ำโดยวิธีการนี้น้ำเบกกิ้งโซดา ประมาณ ½  ถ้วยตวงเทลงท่อระบายน้ำ  จากนั้นรอ 5-8 นาที  แล้วตามด้วยเทน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ถ้วยตวงลงไปรอประมาณ 1-2 ชม.  จากนั้นเทน้ำร้อนลงไปสักครู่ และตามด้วยการล้างน้ำเปล่าในขั้นตอนสุดท้าย 

3.ใช้งูดิน ทะลวงท่อ หรือ สปริงทะลวงท่อ  

    เป็นอีกวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการอุดตันที่มีราคาถูก และเป็นวิธีที่ได้ผลสูง โดยขั้นตอนการทำคือดันงูลงท่อระบายน้ำจนกว่าจะถึงส่วนที่อุดตัน จากนั้น หมุนที่จับงูแล้วดึงขึ้นมา  หากบ้านไหนไม่มีงูช่างประปา   สามารถดัดแปลงจากของใช้ภายในบ้านได้เองเช่น ไม้แขวนเสื้อที่ทำจากลวด  หรือจะเป็นลวดทั่วไปก็ได้

4.ใช้น้ำยาล้างท่อตัน / ผงสลายท่อตัน

         ในปัจจุบันมีการผลิตน้ำยาล้างท่อตัน และผงสลายท่อตัน จำหน่ายทั่วไปหาซื้อได้ง่ายโดยคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้สามารถสะลายไขมัน สิ่งอุดตันต่างๆในท่อได้  ใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก  แต่มีข้อควรระวังในการใช้งานและต้องสวมผ้าปิดจมูก แว่นตา และถุงมือทุกครั้งที่ใช้งานเพราะมีส่วนผสมของสารเคมี

Select the fields to be shown. Others will be hidden. Drag and drop to rearrange the order.
  • Image
  • SKU
  • Rating
  • Price
  • Stock
  • Description
  • กำลังไฟฟ้า (วัตต์)
  • ขนาด
  • ความหนา
  • จำนวนช่อง
  • จำนวนชั้น
  • ชนิดฟิล์ม
  • การติดตั้ง
  • ทิศทาง
  • จำนวนที่นั่ง
  • น้ำหนัก (Kg)
  • ประเภทสินค้า
  • มาตรฐานการป้องกัน
  • ยาว
  • ยี่ห้อ
  • ระบบเปิด-ปิด
  • ระยะที่วัดได้
  • รูปทรง
  • ลักษณะบาน
  • วัสดุ
  • วัสดุหลัก
  • สี
  • หนา
  • เบอร์
  • แสงไฟ
  • Add to cart
  • Additional information
Click outside to hide the comparison bar
เปรียบเทียบ